ทำไมถึงนิยมสูบบุหรี่ไฟฟ้ากัน

คนส่วนใหญ่ที่นิยมสูบนั้น ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากความนิยม ตามกระแสกันเพราะว่า มันเป็นการสูบบุหรี่ที่ดูแปลกใหม่ หลายๆคนคงมีความเชื่อผิดๆว่าการที่เรานั้นได้ทำอะไรแปลกใหม่หรือแตกต่างจากผู้อื่นจะดูดี ดูเท่ห์ ดูแตกต่างจากคนอื่นๆ หลายๆคนที่นิยมสูบนั้น อาจจะคิดแค่ว่าตามกระแสความนิยม อีกอย่างกลิ่นไม่เหม็นด้วย

เพราะยิ่งมีตัวเลือกลูกเล่นต่างๆในการสูบเข้ามาอีก จึงทำให้เกิดความสนใจอีก เพราะมีการเลือกน้ำยาที่เติมลงไป เพื่อให้มีกลิ่นที่หลากหลายแตกต่างกันไป ตามความชอบของผู้ที่สูบ ว่าชอบกลิ่นแบบไหนเราก็สามารถเลือกได้เลย

ความนิยมในการสูบบุหรี่ไฟฟ้านี้

เมื่อมีของแปลกๆใหม่ๆออกมา คนไทยจะชอบมีความอยากลองอยากรู้ อยากทดลองและการสูบนั้น ถ้าหากเรานั้นสูบบ่อยๆหรือสูบมากๆก็อาจจะทำให้ติดก็ได้ เหมือนกับคนที่ติดบุหรี่ทั่วไป แต่บุหรี่ตัวนี้จะใช้ไฟฟ้าในการปล่อยควันออกมาแทนและจะมีกลิ่นที่หอมออกมาตามความชอบของผู้สูบ แต่ที่เราเห็นว่าเป็นความนิยมขึ้นมานั้น เด็กสมัยนี้มีความที่จะอยากรู้อยากลองสิ่งใหม่ๆ เมื่อเห็นคนอื่นสูบแล้วรู้สึกว่ามันดูดี

มันดูโอเคแล้วยังไม่ค่อยมีใครสูบด้วย ถ้าหากเรานั้นได้ทดลองสูบก่อนก็จะได้ไปเล่าให้เพื่อนๆฟังได้ว่าเรานั้นล้ำ สามารถสูบของใหม่ได้ก่อน แต่การคิดแบบนั้นถือว่าผิดอย่างมาก เพราะบางคนอาจจะเบื่อที่ดูดบุหรี่ปกติแล้ว อยากลองบุหรี่ไฟฟ้าตัวใหม่นี้ ว่าจะเหมือนกับบุหรี่ยี่ห้อทั่วไปที่เรานั้นสูบรึเปล่า แต่บางคนที่อยากทดลองสูบนั้น เราก็ต้องรู้จักวิธีการสูบด้วย เพราะอาจจะมีการสูบที่แตกต่างจากบุหรี่ทั่วไป ฉะนั้นคนที่คิดจะสูบ คิดในส่วนนี้ด้วยเพื่อไม่ให้เกิดอันตาย ในการสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพราะเคยมีข่าวออกมาว่า คนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้านั้น

อาจจะสูบแบบผิดวิธีจึงทำให้ไฟดูดปากได้ ฉะนั้นเราต้องระวังในส่วนนี้ด้วย เพื่อการสูบที่ดีมีคุณภาพ ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวผู้ที่สูบนั้น เราต้องรู้จักการศึกษามรสิ่งที่เรานั้นจะทำด้วย เพื่อเป็นผลดีในการที่เรานั้นจะทดลอง ให้เกิดข้อผิดพลาดในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าน้อยที่สุด เราต้องรู้จักระวัง รู้จักการใช้งานของตัวมันคร่าวๆ เพระขึ้นชื่อว่าไฟฟ้ามันอาจจะมีอันตรายในส่วนอื่นๆก็ได้ ถ้าหากเรานั้นไม่รู้วิธีการใช้งานของมันอย่างแท้จริง ฉะนั้นเราควรดูให้ดีๆก่อนที่จะสูบด้วยเพื่อความปลอดภัยในการสูบของเราเอง

 

 

สนับสนุนโดย    แทงหวย

อาการที่จะบอกว่าคุณติดเชื้อโควิด-19

ในปัจจุบันในประเทศไทยก็มีการระบาดของเชื้อโควิด-19อีกครั้งและครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่มีการระบาดที่หนักมากๆในแต่ละวันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19เป็นพันคนขึ้นไปหลายคนก็มาคอมเม้นถ้ามีอาการแบบนั้นแบบนี้ตนเองจะติดเชื้อแล้วหรือยังตนกังวลมากๆ

ซึ่งวันนี้เราก็จะมาบอกว่ามีอาการอะไรบ้างที่จะเป็นตัวบ่งบอกว่าคุณติดเชื้อโควิด-19แล้วมีหลายอาการลองฟังกันดูว่าตนเองมีอาการเหล่านี้หรือเปล่า

อาการที่หนึ่ง คือ อาการไข้ ใครที่มีอาการไข้ตัวร้อนหรือใครที่มีอาการหนาวสั่นก็เป็นอาการอย่างหนึ่งที่จะเป็นตัวบ่งบอกว่าคุณอาจจะติดเชื้อโควิด-19แล้วก็ได้ดังนั้นแนะนำว่าแต่ละคนหรือแต่ละบ้านมีประหลอดวัดไข้หนึ่งอันเพื่อทำการวัดไข้ของตนเองมั่นวัดอาจจะวัดเช้าหรือเย็นก็ได้แล้วก็ดูอุณภูมิของตนเอง

ถ้ามีอุณภูมิมากกว่า37.5ขึ้นไปอันนี้ก็จะเป็นตัวบ่งบอกที่คุณเริ่มมีไข้แล้วดังนั้นคุณอาจจะต้องรีบแยกตัวแล้วก็อาจจะลองวัดซ้ำอีกทีบางทีอาจจะทุก6ชั่วโมงอย่างนี้ถ้าไข้ลงไม่เป็นไรแต่ถ้าเริ่มไข้สูงขึ้นๆเรื่อยๆเกิน38ขึ้นไปอันนี้อาจจะต้องรีบมาโรงพยาบาลทันทีเพื่อรับการตตรวจคุณอาจจะเป็นโควิด-19

อาการที่สอง คือ ไอแห้งๆ ไอมีเสมหะ ใครที่มีอาการไออาจจะไอแห้งๆหรือไอแบบมีเสมหะก็ได้อันนี้ก็จะต้องบ่งบอกว่าคุณอาจจะติดเชื่อโควิด-19แล้วก็ได้เพราะว่าเชื่อไวรัสตัวนี้อาจจะติดเชื้อทางเดินหายใจอาจจะเป็นส่วนบนหรือว่าส่วนล่างก็จะส่งผลทำให้คุณมีอาการไออาจจะไอแห้งๆหรือไอแบบมีเสมหะก็ลองไปสังเกตดูถ้ามีร่วมกับมีไข้ด้วยให้รีบไปตรวจคุณอาจจะติดเชื้อแล้วก็ได้

อาการที่สาม คือ เจ็บคอ ใครที่มีอาการเจ็บคอก็เป็นอีกหนึ่งที่จะต้องสงสัยว่าคุณนั้นอาจจะติดเชื้อโควิด-19แล้วก็ได้ยังไงให้สงสัยเอาไว้ก่อนดีที่สุด

อาการที่สี่ คือ หอบเหนื่อย ใครที่มีความรู้สึกว่ามันเหนื่อยผิดปกติทำกิจวัตรประจำวันปกติทำได้แล้วอยู่ทำเหมือนเดิมแต่ทำไมมันมีอาการเหนื่อยมากขึ้นหรือว่ามีอาการหายใจไม่อิ่มอันนี้ก็จะเป็นตัวหนึ่งที่จะเป็นตัวบ่งบอกว่าคุณอาจจะเป็นโรคโควิด-19แล้วก็ได้

เพราะว่าเชื้อไวรัสโควิด-19มันอาจจะทำให้ปอดของคุณนั้นอักเสบได้เมื่อปอดของคุณอักเสบแล้วมันจะทำให้คุณมีอาการไอมีอาการเหนื่อยมาขึ้นดังนั้นถ้าใครที่มีความรู้สึกว่าหอบเหนื่อยรวมกับมีไข้มีการไอแบบนี้ให้รีบมาโรงพยาบาลคุณอาจจะติดเชื้อแล้วก็ได้

 

สนับสนุนโดย    แทงหวย

ตกขาวในผู้หญิง เกิดขึ้นได้อย่างไร

สมัยนี้การเป็นผู้หญิงแสนยากลำบากยิ่งนัก ไหนจะต้องเป็นประจำเดือน ไหนจะเป็นโน้นนี่นั่นอะไรหลายๆ อย่าง ผู้หญิงส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้มักจะป่วยเป็นโรคที่ผู้ชายนั้นไม่มีวันที่จะเข้าใจ โดยเฉพาะการเป็นตกขาว เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนคงต้องเจอกับปัญหานี้กันอย่างแน่นอน ปัญหาที่ผู้ชายไม่มีวันเข้าใจหัวอกผู้หญิงอย่างเรา

โดยปกติแล้วผู้หญิงเราจะเป็นตกขาวกันอยู่แล้ว เป็นๆหายๆ แต่เมื่อไหร่ที่มักเกิดความผิดปกติขึ้น ก็อาจส่งผลเสียจ่อร่างกายเราได้ ซึ่งอาการตกขาวนั้น จะเกิดขึ้นได้จากสารคัดหลั่งของช่องคลอด โดยจะมีลักษณะคล้ายกับมูกใส ๆ ส่วนใหญ่มักจะพบได้ในวัยเจริญพันธุ์ หากใครที่มีตกขาวนั้นก็อาจจะเสียความมั่นใจไปไม่มากก็น้อย ดังนั้น การดูแลรักษาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญแล้วจำเป็นที่จะต้องดูแลเป็นอย่างดี

โดยทั่วไปอาการตกขาวนั้นจะสามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่สำหรับบางคนก็อาจจะมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่สามารถเข้าไปช่วยเพิ่มการเกิดตกขาวให้มากขึ้นและเกิดความผิดปกติขึ้นได้ หากตกขาวของเรานั้นเกิดความผิดปกติขึ้น เช่น มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น มีสีที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงการมีกลิ่นเหม็น ที่อาจทำให้คุณนั้นเสียความมั่นใจในตัวเองได้

ดังนั้นเชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงไม่มีความคิดที่อยากจะไปหาหมอเด็ดขาด อาจจะเป็นเพราะความเขินอายต่อคุณหมอก็ได้ จึงเดินเข้าไปซื้อยาที่สามารถช่วยในการรักษามากินแทน แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น สิ่งที่เราควรทำเมื่อเกิดตกขาวผิดปกติ เราควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด และหากพบว่าร่างกายเกิดการติดเชื้อต่างๆ ขึ้นก็จะได้วินิจฉัยที่ถูกต้อง

และเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม การเกิดของตกขาวในผู้หญิงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ และอาจมีปัจจัยหลายอย่างในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการกิน หรือแม้แต่การสวมใส่เสื้อผ้า ก็อาจเป็นสามาเหตุทำให้น้องสาวของเรานั้นหายในไม่ออก และเกิดกลิ่นอับขึ้นได้ เพราเชื่อว่าสมัยนี้ผู้หญิงหลายคน ให้ความสนใจเรื่องกินมากกว่าการดูแลตนเอง อาจจะมีส่วนน้อยที่ใสใจในเรื่องของสุขภาพร่างกาย และสุขอนามัยของตนเอง นอกจากนี้แล้ว หากร่างกายของเราเกิดความผิดปกติขึ้น ไม่เพียงแต่ส่งผลทำให้เราเสียความมั่นใจในตัวเองได้เท่านั้น ยังมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ที่ร้ายแรงขึ้นได้

เพราะจุดซ้อนเร้นของเรานั้นมีความอ่อนโยน และอ่อนไหวต่อสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย ดังนั้น ทางที่ดีควรดูแลรักษาจุดซ้อนเร้นเป็นประจำทุกวัน แต่ก็ไม่ควรที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาความสะอาดบ่อยเกินไป เพราะอาจเสี่ยงต่อการระคายเคืองขึ้นได้ หากจะเป็นที่จะต้องใช้จริง ๆ ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวให้ได้มากที่สุด

 

สนับสนุนโดย    แทงหวย

ทำอย่างไรเมื่อลูกตัวร้อน

     สำหรับเด็กที่ตัวร้อนนั้นหากเราวัดอุณหภูมิร่างกายมีความร้อนอยู่ที่ 37.5 องศาเซลเซียสเป็นต้นไปแสดงว่าในขณะนี้เด็กกำลังเริ่มที่จะไม่สบายและถ้าหากอุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 38 องศาเซลเซียสเป็นต้นไปนั่นแสดงว่าเด็กมีอาการไข้ขึ้นสูงแล้วเราควรจะต้องลดความร้อนของอุณหภูมิภายในร่างกายเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เด็กมีอาการช็อกนั้นเอง

    สำหรับวิธีลดความร้อนในร่างกายของลูกน้อยนั้นทำได้ด้วยการเช็ดตัวซึ่งน้ำที่ใช้สำหรับในการใช้ตัวรูปนั้นควรจะเป็นน้ำที่อุณหภูมิปกติหรือจะใช้เป็นน้ำอุ่นก็ได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำที่เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วเช็ดตามร่างกายของลูกโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณขาหนีบซอกคอหรือแม้แต่รักแร้โดยเน้นให้เช็ดตรงบริเวณที่เป็นเป็นข้อพับต่างๆเพราะต้องบริเวณดังกล่าวนั้นจะมีความร้อนค่อนข้างสูง

    สำหรับวิธีการเช็ดนั้นควรจะต้องมีการเช็ดย้อนขึ้นไปเพื่อเป็นการเปิดรูขุมขนในร่างกายเพื่อให้ความร้อนได้ระบายออกมานั่นเองเมื่อทำการเช็ดเสร็จเรียบร้อยแล้วต้องมีการวัดอุณหภูมิอีกครั้งหนึ่งว่าอุณหภูมิลดลงเป็นอุณหภูมิปกติแล้วหรือไม่ถ้าหากอุณหภูมิยังไม่ลดลงต้องเช็ดจนกว่าอุณหภูมิจะลดลงหลังจากที่เช็ดตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วต้องใช้ผ้าแห้งเช็ดตัวให้สะอาดอีกครั้งหนึ่งหลังจากนั้นก็ใส่เสื้อผ้าโดยเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่แล้วสบายตัวไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่มีความหนามากเกินไปเพราะจะทำให้เด็กรู้สึกได้

      นอกจากการเทสร่างกายเรียบร้อยแล้วควรจะต้องมีการหาน้ำมาให้เด็กดื่มน้ำให้เด็กดื่มน้ำให้เยอะให้มากที่สุดเพราะการดื่มน้ำนั้นจะช่วยลดอุณหภูมิภายในร่างกายของเด็กได้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการป้องกันการเกิดอาการขาดน้ำได้อีกด้วย  สิ่งที่สำคัญที่สุดแต่ยามให้เด็กนอนพักผ่อนให้เพียงพอให้นอนในที่อากาศโล่งสบายภูมิไม่เย็นมากจนเกินไปและไม่ร้อนมากจนเกินไปโดยพยายามสังเกตเด็กว่ามีอาการหนาวสั่นหรือไม่ถ้าหากมีอาการหนาวสั่นควรนำผ้าห่มมาห่มให้หนาแต่เมื่ออาการลดลงแล้วก็ควรที่จะเอาผ้าห่มออกเพื่อให้เด็กนั้นนอนได้สบายตัวมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

     อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องของการเช็ดตัวของลูกน้อยในขณะที่ตัวร้อนนั้นคุณแม่ควรสังเกตลูกเป็นระยะซึ่งถ้าหากเมื่อใดก็ตามที่วัดไข้และอุณหภูมิขึ้นสูงถึง 38 องศาควรจะต้องรีบเช็ดตัวต่ำกว่าอุณหภูมิจะลดลงทุกครั้ง และอย่าลืมให้ลูกทานยาให้ตรงเวลา แต่ถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล 

 

สนับสนุนโดย.     แทงหวย

โจ๋โรงเกลือ รวมตัวกันเล่นน้ำสงกรานต์ เย้ยมาตรการของรัฐไม่สน covid-19 

               เมื่อวันที่ 14 เดือนเมษายน ปี พ.ศ 2564   ซึ่งตรงกับวันสงกรานต์ ในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ผู้คนเป็นจำนวนมากออกมาเล่นสาดน้ำในวันสงกรานต์กันโดยภาพการเล่นน้ำสงกรานต์นี้ถูกเผยแพร่มาจากFacebook ของหญิงสาวรายหนึ่งได้มีการเผยแพร่สถานการณ์ที่ตลาดโรงเกลือโดยระบุว่าบรรดาวัยรุ่นทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายและยังมีเด็กเล็กๆอีกด้วยพากันออกมาเล่นน้ำสาดน้ำกันในช่วงวันสงกรานต์

          โดยที่ทุกคนนั้นไม่มีใครสวมใส่หน้ากากอนามัยเลยและมีคนมาเล่นสงกรานต์กันเป็นจำนวนมากซึ่งบรรดาวัยรุ่นเหล่านี้ไม่ได้มีการทำตามมาตรการของรัฐบาลที่ออกมาขอความร่วมมือประชาชนทุกคนให้งดการเล่นน้ำในวันสงกรานต์เพราะต้องการป้องกันการระบาดของไวรัส covid-19 กันเลยเรียกได้ว่ากลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ไม่ได้กลัวเรื่องของการระบาดของไวรัสแต่ยังคงเล่นน้ำสงกรานต์กันตามปกติอย่างไรก็ตามหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นได้มีการเขียนทิ้งท้ายในคลิปไว้ว่าภาพเหตุการณ์การเล่นสงกรานต์ที่โรงเกลือนั้นเป็นบรรดาวัยรุ่นของประเทศอื่นซึ่งไม่มีวัยรุ่นของคนไทย

       หลังจากที่มีการเผยแพร่และ Share ภาพนี้ออกไปก็ทำให้ผู้คนเป็นจำนวนมากต่างก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคลิปวิดีโอดังกล่าวซึ่งหลายคนมองว่าตลาดโรงเกลือนั้นเป็นตลาดที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งถ้าหากว่ามีผู้คนเป็นจำนวนมากออกมาเล่นน้ำในวันสงกรานต์โดยที่ไม่มีการระมัดระวังกันแบบนี้จะทำให้ตรงโรงเกลือเป็นศูนย์รวมของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิตได้และแน่นอนว่าเมื่อโรงเกลือมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ก็จะทำให้มีคนไทยหลายคนติดไวรัส covid-19มาจากโรงเกลือได้

         สำหรับโรงเกลือนั้นถือว่าเป็นตลาดขายสินค้ามือสองตลาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ซึ่งหลังจากสงกรานต์ไปแล้วตลาดโรงเกลือก็ยังเปิดขายสินค้าตามปกติและเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ที่เป็นคนไทยก็ต้องไปซื้อสินค้าที่ตลาดโรงเกลือรวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่โรงเกลือก็ต้องเปิดขายสินค้าตามปกติดังนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ที่ตลาดโรงเกลือนั้นก็น่าจะเป็นคนที่ทำงานอยู่ในตลาดโรงเกลือซึ่งจะเป็นกลุ่มที่อาจเผยแพร่เชื้อไวรัสให้กับคนไทยก็ได้นั่นเอง

        สำหรับสถานการณ์การระบาดไวรัส covid -19 ของประเทศไทยในตอนนี้นั้นเรียกได้ว่าตอนนี้มีการระบาดค่อนข้างเยอะมาก 1 วันจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสเป็นพันคนเลยทีเดียวซึ่งถ้าหากสถานการณ์ยังคงแบบนี้ต่อไปก็อาจจะทำให้ 1 วันนั้นมีผู้ติดเชื้อมากกว่าพันคนก็เป็นไปได้ดังนั้นการของรัฐที่มีการออกมาขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้มีการรวมกลุ่มกันเกิน 5 คนและให้เว้นระยะห่างกันจึงเป็นสถานที่รักษาความปลอดภัยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ดีที่สุดนั่นเอง

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.    แทงหวย

อย่าเพิ่งทานวุ้นเส้นถ้าคุณยังไม่รู้สิ่งนี้

หลายๆท่านมักชอบรับประทานวุ้นเส้นเพื่อลดความอ้วนกันใช่หรือไม่และเราก็จะพาไปดูความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวุ้นเส้นกันว่าจะมีอะไรบ้าง

ความเข้าใจผิดข้อที่หนึ่ง นั่นก็คือ ผู้ป่วยเบาหวานห้ามทานวุ้นเส้นเยอะเพราะว่าวุ้นเส้นมีคาร์โบไฮเดรตสูงมากๆ ซึ่งที่จริงแล้วแม้ว่าวุ้นเส้นจะทำมาจากถั่วเขียวก็มีคาร์โบไฮเดรตสูงไม่ใช่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรตต่ำเราก็เลยคิดว่าถ้าเป็นเบาหวานก็ห้ามทานวุ้นเส้นเพราะคาร์โบไฮเดรตสูง

นอกจกานี้แล้วคาร์โบไฮเดรตในวุ้นเส้นแม้จะสูงแต่เขาเป็นคาร์โบไฮเดรตที่มี ไกลซิมิกอินเด็กซ์ต่ำหรือไกลซิมิกอินเด็กซ์ประมาณ45เท่านั้นถามว่าเต็มร้อยเหลือ45ก็คือครึ่งเดียวเมื่อไกลซิมิกอินเด็กซ์ต่ำจะทำให้เวลาที่เรารับประทานเข้าไปน้ำตาลในเลือดมันจะไม่พุ่งสูงเร็ว

ดังนั้นตัวอินซูลินของเราก็จะไม่พุ่งสูงเร็วแบบนี้จะทำให้ภาวะเบาหวานไม่ได้แย่ลงมากนักถามว่าทานได้ไหมทานได้ไม่อันตรายถ้าสมมุติว่าเทียบกับทานข้าวขาวๆเลยขนมปังขาวต้องขัดสีเยอะๆพวกนี้ไกลซิมิกอินเด็กซ์เยอะมากเลยทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเร็วแล้วก็อินซูลินพุ่งขึ้นเร็วแบบนี้มีโอกาสเสี่ยงเบาหวานสูงแล้วผู้ที่เป็นเบาหวานก็จะยิ่งแย่ลง

เพราะฉะนั้นแล้วผู้ป่วยเบาหวานที่จะควบคุมเบาหวานถาให้เลือกทานวุ้นเส้นกับทานข้าวขาวก็เป็นวุ้นเส้นน่าจะเป้นทางออกที่ดีกว่าหรือจะทานอย่างอื่นก็ได้เช่น ขาวกล้องก็ได้ ข้าวไรซ์เบอร์รี่แบบนี้จะคุมน้ำตาลได้ดีกว่าทานข้าวที่ขัดสีอย่างดีอันนี้ก็แนะนำเลยสำหรับผู้ป่วยเบาหวานนั่นเอง

ความเชื่อผิดๆข้อที่สอง นั่นก็คือ วุ้นเส้นไม่มีใยอาหาร บางคนก้คิดว่าวุ้นเส้นนั้นมันเหมือนแป้งมันแบบไม่น่าจะมีเส้นใยอาหารหรือเปล่าก็ต้องบอกอย่างนี้วุ้นเส้นจริงๆแล้วมีเส้นใยอาหารดีพอสมควรก็คือวุ้นเส้นประมาณ100กรัมมีเส้นใยอาหารประมาณ0.5กรัมก็ถือว่าประมาณ2%ของร่างกายที่จะต้องการต่อวันถึงแม้ว่าจะเป็นแค่2%แต่ถือว่ามันก็ยังมีใยอาหารอยู่พอสมควร

ดังนั้นจึงถือว่าเป็นสิ่งที่ดีอาหารที่ดีถ้าเกิดท่านจะทานวุ้นเส้นเพื่อควบคุมน้ำหนักเราก็แนะนำเพียงแต่ว่าวุ้นเส้นจะต้องไม่ปรุงมากจนเกินเหตุบางทีเราไปลดตรงวุ้นเส้นแต่เราไปเพิ่มตรงอย่างอื่นมากเกินไปเช่น การปรุงรสที่มีน้ำตาลมากๆอะไรแบบนี้มันก็กลายเป็นแย่ลไปมากกว่าเดิมเพราะฉะนั้นแล้วจะต้องรับประทานวุ้นเส้นพวกนี้อย่างเหมาะสมที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งจนมากเกินไปทำให้ร่างกายของคุณแย่ลงไปอีก

 

สนับสนุนโดย.    แทงหวย

วิธีในการกินอาหารที่จะทำให้เรามีการหิวที่น้อยมากที่สุด

การที่เราได้มีการลดน้ำหนักนั้น เราจำเป็นที่จะต้องมีการคำนวณสิ่งที่ต้องกินแคลอรี่ที่เราจำเป็นที่จะได้รับต่อวัน เพื่อที่จะทำให้เราสามารถที่จะทำการควบคุมน้ำหนักตัวของเราได้ดีที่สุด และทำให้น้ำหนักตัวของเรามีการลดลงด้วย ซึ่งในการที่เราได้มีการกินอาหารที่น้อยลง และจำเป็นที่จะต้องมีการกินอาหารอย่างจำกัด จะทำให้เราเกิดอาการหิวได้ง่ายมากๆ และจะทำให้เรามีการกินอาหารเข้าไปเพิ่ม ซึ่งจะมีอาการนี้เกิดมากๆในช่วงกลางคืนหรือดึกๆด้วย ซึ่งจะมีวิธีในการกินอาหารที่ทำให้เราจะไม่หิว หรืออาหารที่เราได้มีการกินเข้าไปจะอยู่ท้องได้ดี โดยที่ทำให้เราไม่เกิดอาการหิวในตอนกลางคืน จะมีวิธีในการกินอาหารดังนี้

  1. การที่เราจะรู้ว่าเราอยากกิน หรือเราหิว

การที่เราได้มีการลดน้ำหนักนั้น เราจะมีอาการที่ใกล้เคียงกันก็คือ อาการหิว หรือ อาการที่เราอยากกินสิ่งต่างๆ ซึ่งจะเกิดจากการที่ตอนที่เราไม่ได้ลดน้ำหนักแล้วมีการกินทุกอย่างโดยที่ไม่ได้มีการคุมอาหาร หรือก็คืออาการเคยชิน ซึ่งวิธีในการที่เราจะแก้อาการนี้ก็คือการที่เราจะทำการนึกก่อนว่าอาหารที่เราได้มีการกินเข้าไปล่าสุดนั้น เราได้มีการกินไปเมื่อไหร่ ซึ่งถ้าเราอยากที่จะมีการอยากกินเป็นมื้อย่อยๆ เราควรที่จะมีการมองข้ามมื้อนี้ไปก่อน เพราะว่าเป็นมื้อที่ไม่ค่อยจะมีความจำเป็น

  1. การที่เราจะทำการกินอาหารที่มีโปรตีนสูง และมีกากใยอาหารที่สูง

โปรตีนจะเป็นอาหารที่กินเข้าไปแล้วเกิดการอยู่ท้องมากกว่าอาหารชนิดอื่นๆ ซึ่งโปรตีนจะมีเวลาย่อยที่นานมากถึง4-6ชั่วโมง และอาหารที่เป็นจำพวกคาร์โบไฮเดรต แป้ง น้ำตาล จะมีเวลาที่ใช้ในการย่อยที่เร็ว ซึ่งจะมีการย่อยใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 4ชั่วโมง ซึ่งโปรตีนต่างๆจะทำให้เราไม่เกิดอาการหิวในตอนดึกหรือตอนกลางคืน

3.การที่เราจะทำการแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อย่อยๆ

การที่เราไม่ได้มีเวลาในการกินอาหารให้ครบ3เวลานั้น เราจะสามารถที่จะทำการแบ่งเป็นมื้อย่อยๆได้ โดยที่เราจะทำการแบ่งอาหารเป็น4-6มื้อแทนการที่เราจะทำการกินไปทีเดียว3มื้อ ซึ่งในวิธีในการกินอาหารด้วยวิธีการกินอาหารแบบนี้จะทำให้เรามีการกินเพื่อไม่ให้เราเกิดอาการหิวในตอนกลางคืนได้เป็นอย่างดี แต่เราไม่ควรที่จะมีการกินอาหารที่เยอะมากจนเกินไปด้วย

 

สนับสนุนโดย.    แทงหวย